โปรaisโปรais เริ่มแรกจดทะเบียนริเริ่มตั้งขึ้นเป็น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด ช่วงวันที่ 24 เดือนเมษายน พ.ศ. 2529 5 เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อตุลาคม พุทธศักราช 2533 โดยเอไอเอสทำข้อตกลงกับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้ปฏิบัติงานโครงการบริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ เป็นระยะเวลา 20 ปี ถึง พุทธศักราช 2553เอไอเอสเข้าขึ้นทะเบียนในตลาดหุ้นที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 13 พ.ย. พ.ศ. 2534 และก็เปลี่ยนสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด แล้วบริษัทขยายธุรกิจโดยการเข้าซื้อธุรกิจในเครือเคยชินความประพฤติ ตัวอย่างเช่น เคยชินความประพฤติ ดาต้าคอม (ขณะนี้เป็น บริษัท แอดวานซ์ ดาต้าเน็ตเวิร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด), คุ้นชินการกระทำ เพจจิ้ง ฯลฯ
บริษัทเปิดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โปรAIS ในระบบระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่จีเอสเอ็ม ในชื่อ Digital GSM ในตุลาคม พ.ศ. 2537 และก็ได้ขยายเวลาร่วมข้อตกลงเป็น 25 ปี (หมดสัญญาปี พุทธศักราช 2558) เมื่อ พ.ศ. 2539บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)รายได้รวมตามสรุปรายงานรายปีฉบับ ย่อ ปี 2563 รายงานที่ 172,890 ล้านบาท ลดลง -4.42% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่รายงานที่ 180,894 ล้านบาทบริการเครือข่ายโทรศัพท์เขยื้อนระบบ 3Gบนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ แบ่งตามกรรมวิธีการจ่ายเงินเป็น 2 ชนิดเป็น จ่ายค่าสำหรับบริการเป็นทุกเดือนมีชื่อกิจการค้าว่า “เอไอเอส 3 จี” รวมทั้ง ชำระค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการด้วยการเติมเงิน มีชื่อการค้าขายว่า “เอไอเอส 3 จี วันทูคอล (AIS 3G One-2-Call) “ระบบ 4Gบนคลื่นความถี่ 900, 1800, 2100 รวมทั้ง 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ ด้วยเทคโนโลยี แอลคราวอี แอดวานซ์ 3 ซีเอ มีชื่อการค้าขายว่า “เอไอเอส 4 จี แอดวานซ์ (AIS 4G Advanced)”มีการนำคลื่นความถี่ 1800 รวมทั้ง 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ มารวมกันโดยใช้เทคโนโลยี (2CA) Carrier Aggregation, 4x4MIMO และก็ DL256QAM/UL64QAM และก็นำโครงข่าย WiFi 20 กิกะเฮิร์ตซ์ มารวมเป็นช่องสัญญาณเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง Multipath TCP (MPTCP)โดยมีชื่อทางการค้าว่า “เอไอเอส เน็กซ์ จี (AIS Next G)”ระบบ 5Gบนคลื่นความถี่ 700, 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ รวมทั้ง 26 กิกะเฮิร์ตซ์บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระบบอินเทอร์เน็ตเน็ตบ้านความเร็วสูง มีชื่อการค้าขายว่า “เอไอเอส ไฟเบอร์ (AIS Fibre)”เน็ตบ้านผ่านสายโทรศัพท์ฐานรากแบบ Narrow band (Dial-Up Modem) 56 kbpsมีชื่อการค้าขายว่า “ซีเอส อินเทอร์เน็ต (CS Internet)” (ยกเลิกบริการแล้ว)เน็ตบ้านและจากนั้นก็สำหรับหน่วยงานผ่านสายโทรศัพท์ฐานรากแบบ ISDN 256 kbps -1,024 kbps มีชื่อการค้าขายว่า “ซีเอส ล็อกอินโฟร์ (CS Loxinfo)” (ในตอนนี้ได้ยกเลิกบริการแล้ว รวมถึงได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อบริษัท CSL แยกตัวออกไปทำระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรวมถึง Internet Data Center เน้นธุรกิจเชิงการค้า)ความท้าแล้วก็จังหวะความรุ่งเรืองจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้น 1 ของเมืองไทยสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลไลฟ์ รวมถึงการเป็นหน่วยงานยุคสมัยใหม่ที่จะจำต้องขับเขยิบไปด้วยความรวดเร็วให้ทันกับการเปลี่ยน โปรAIS แปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและหลังจากนั้นก็ให้เทคโนโลยี“คน”
เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุด ที่จะทำ ให้เอไอเอสเปลี่ยนแปลงผ่านไปสู่การเป็นหน่วยงานที่เจอความสำ เร็จ มีผลประกอบกิจการที่หนักแน่น รวมทั้งเป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลสำหรับเพื่อการดำ เนินธุรกิจอย่างยั่งยืนนอกจากนั้นความมากมายหลากหลายของคนเอไอเอสโดยเฉพาะกรุ๊ปเจนเนอเรชั่นวายกลุ่มเด็กที่เพิ่งจะเรียบจบมาหมาดๆที่มีไม่น้อยเลยทีเดียวกว่าปริมาณร้อยละ 70 ในหน่วยงาน ซึ่งมีมุมมองใหม่ๆของโลกช่วงปัจจุบัน เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหน่วยงานฉะนั้นอุปสรรคที่มีความสำคัญของการขับเขยื้อนเรื่องคนของเอไอเอสนอกเหนือจากการสร้างคนให้พร้อมรับต่อความแปลงแล้วนั้นทำอย่างไรที่จะลดความไม่เหมือนแล้วก็ให้พนักงานทุกเจนเนอเรชั่นสามารถทำ งานด้วยกันได้และก็แลเห็นจุดมุ่งหมายของหน่วยงานในแนวทางเดียวกันเพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะก้าวและนำ พาเอไอเอสไปสู่การเป็น “หน่วยงานแห่งความมั่นคงและยั่งยืน”วิธีการบริหารจัดแจง
• แผนการรวมถึงแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลจากสายงานช่วยเหลือ เป็น “คู่คิดทางธุรกิจ”
• สร้างวัฒนธรรมหน่วยงานเพื่อตระเตรียมรับต่อความเคลื่อนไหวในสมัยดิจิทัล
• การดูแลพนักงานแบบองค์รวม
• เอไอเอส อะคาเดมี่-พัฒนาความเป็นผู้นำ รวมทั้งฝึกหัดบุคลากร
• ดูแลสุขสภาวะอนามัยความปลอดภัยและก็การดำรงอยู่ที่ดีของพนักงาน
• สร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงาน
• มีผลผลิตการเป็นคนดีให้แก่สังคมแนวการจัดการทรัพยากรบุคคลจากสายงานช่วยเหลือ เป็น คู่ซี้ทางธุรกิจการให้ความสำ คัญกับคนเป็นการเปลี่ยนตั้งแต่ระดับแผนการด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลการปรับโครงสร้างแล้วก็หน้าที่ของสายงานบริหารบุคคลจากสายงานช่วยเหลือที่เน้นย้ำงานด้านทำการ(HROperations)ตามต้นแบบเดิมปรับเป็นการจัดแจงเชิงกลยุทธ์ในฐานะคู่หูทางธุรกิจ
(BusinessPartner) โปรAIS ทำ ให้งานที่เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นเปรียบได้เสมือนดั่งกุญแจสำคัญในการพัฒนาหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ในสายงานบริหารทรัพยากรบุคคล จำ เป็นจำเป็นต้องรู้เรื่องธุรกิจและก็วิธีการดำ เนินงานของเอไอเอสทั้งในระยะสั้นและก็ระยะยาวโดยเอไอเอสได้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลไลฟ์ เข้าใจหน้าที่ของตนเองในฐานะคู่คิดทางธุรกิจและก็เริ่มช่วยเหลือกันปรับปรุงคนในของเอไอเอส พร้อมกับการหาบุคคลากรใหม่ๆเข้ามาเสริมโดยการจะเป็นคู่ซี้ทางธุรกิจที่เจอความสำ เร็จได้เอไอเอสเน้นขั้นตอนการที่ยึดหลักการ “การให้ความเอาใจใส่กับทรัพยากรบุคคล” (Put the people first with)
1 มาตรฐานที่ถูก (Put basic right) เป็นกลยุทธ์งานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลมีความแจ่มกระจ่างล้ำยุคและสนับสนุนขั้นตอนการดำ เนินงานที่ โปร่งใสถูก และก็ครบ
2 การจัดสรรบุคคลากรให้เหมาะสม (Place the right people)เป็นมีการจัดวางแผนให้บุคคลาแขนที่มีความเข้าใจได้สามารถทำงาน ในตำ แหน่งที่สมควรและก็เกิดคุณค่าสูงสุดตามองค์ประกอบที่กำ ครั้งดไว้
3 การเตรียมความพร้อมของบุคคลแขนเพื่อรองรับการเติบโต(Prepareourpeopleforsuccess)เป็นด้วยบุคคลามือเป็นส่วนสำคัญของความสำ เร็จของหน่วยงานทั้งในประเด็นการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่เป็นสิ่งที่ต้องการจำเป็นต้องทำโดยตลอด เพื่อเจ้าหน้าที่สามารถเติบโตไปพร้อมทั้งการเจริญเติบโตของหน่วยงาน
4 เป็นคู่หูกับธุรกิจ (Partner to business) เป็นสายงานทรัพยากรบุคคลมีความรู้และมีความเข้าใจทางของธุรกิจ และก็ร่วมวางอุบาย ในการตระเตรียมความพร้อมการจัดการทรัพยากรให้กับองค์กรอย่างมีคุณภาพรวมถึงให้คำ ชี้แนะ ด้านงานที่เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างมืออาชีพให้กับหน่วยงานต่างๆ
5 มีความเป็นมือโปรสำหรับในการจัดแจงทรัพยากรมนุษย์(Professional in HCM)เป็นคุณภาพของพนักงานภายในสายงานบริหารทรัพยากรบุคคลช่วยเหลือแผนธุรกิจของเอไอเอส และยกระดับองค์ความรู้ด้านการบริหารทุนมนุษย์(Human Capital)อย่างมีประสิทธิภาพและล้ำยุคเสมอ
6 การจัดการผลการดำเนินงานอย่างมีระบบระเบียบ (Performancedriven)เป็นการจัดระบบแล้วก็กระบวนการของการวัดผลปฏิบัติการของพนักงานสำหรับเพื่อการขับเคลื่อนผลประกอบการของหน่วยงาน รวมทั้งการจ่ายค่าชดเชยให้สอดคล้องกับบทบาทที่บุคลากรได้รับมอบหมาย
นอกจากกลอุบายที่กล่าวข้างต้นนั้นกลุ่มประธานเชื่อมั่นว่าบุคลากรของเอไอเอสทุกคนถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและจากนั้นก็เป็นหัวใจสำ คัญของการขับย้ายความสำ เร็จของสมัยดิจิทัล ซึ่งเป็นผู้สรรสร้างของใหม่ใหม่ๆตลอดมา ดังนั้นสายงานบริหารทรัพยากรมีแผนในการงานที่จะบริหารดูแลพนักงานของเอไอเอสซึ่งมีความหลากหลายแตกต่างกันในทุกๆเจเนอเรชั่นเพื่อสร้างฐานกำ โปรAISลังข้าราชการที่แข็งเกร่งสำ หรับการเคลื่อนหน่วยงานในอนาคตสร้างวัฒนธรรมหน่วยงานเพื่อจัดแจงต่อการเปลี่ยนแปลงในสมัยดิจิทัลในปลายปี2559 เอไอเอสมีบุคลากรกว่า 12,000คน ที่มีความมากมายหลาย โดยเฉพาะในเรื่องของเจเนอเรชั่น ได้แก่BabyBoom, GenX และ GenYโดยเอไอเอสมีความเชื่อในการอยู่ร่วมกันแบบ
Generation Connected โดยมีความประพฤติการทำ งานไปในทิศทางเดียวกันมีชีวิตที่เชื่อมโยงกับระบบดิจิทัลและการอยู่ร่วมกันด้วยการมอบประสบการณ์กับความแข็งแกร่งของคนนานาประการรุ่น จากรุ่นสู่รุ่นยกเว้นมากมายในเรื่องเจนเนอร์เรชั่นดังกล่าวแล้วยังมีความมากมายหลากหลายในเรื่องเพศความนิยม ภาษาเชื้อชาติรวมทั้งค่าความนิยมตามถิ่นที่อยู่อาศัย ฯลฯ หนึ่งในภารกิจสำคัญของการจัดการทรัพยากรบุคคลคือ การจัดการความไม่เหมือนโดยไม่แบ่งเพื่อทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้วัฒนธรรมองค์กรเดียวกันและก็จุดหมายเดียวกัน โดยการจัดการงาน เริ่มตั้งแต่ระดับความสอดคล้องของแผนการกฎระเบียบดูแลงานบุคคลามือที่ทำขึ้นให้ตามกฎหมายแรงงานแล้วก็กฎหมายสิทธิมนุษยชนของประเทศ รวมทั้งได้มีการทวนทางอีกครั้งในปีที่ผ่านมา โดยพิจารณาถึงการยกฐานะแผนงานให้สามารถสอดรับต่อหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น
(UNGlobalCompactonHumanRights)ตั้งแต่เรื่องความทัดเทียมในกรรมวิธีเลือกสรรเจ้าหน้าที่การกำ ครั้งดค่าแรงงานและก็ผลประโยชน์การประเมินผลการกระทำงานแล้วก็การพัฒนาพนักงาน อื่นๆอีกมากมาย การให้โอกาสให้คนที่มีความผิดพลาดทางร่างกายเข้ามาร่วมงานกับเอไอเอสและก็เน้นย้ำการจ้างแรงงานแคว้นเมื่อเอไอเอสมีการขยายสถานที่ดำเนินงานไปในภูมิภาคต่างๆและก็การให้เจ้าหน้าที่ที่ประจำในศูนย์กลางสามารถฟ้องร้องมุ่งมาดค์ขอโอนย้ายกลับไปดำเนินการในภูเขาไม่ลำ เนาของตนเองเมื่อมีตำแหน่งว่าง เพื่อเจ้าหน้าที่สามารถกลับไปดูแลครอบครัวรวมทั้งพัฒนาถิ่นฐานของตนเองได้ โดยในปี2559 ก่อนหน้านี้มีพนักงานโอนย้ายปริมาณ30 รายวัฒนธรรมองค์กรของเอไอเอสเพราะความเชื่อมั่นว่าการสร้างความเป็นเลิศไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำเป็นสำ เร็จเพียงเหลวแหลกข้ามคืนเอไอเอสจึงยืนหยัดว่าการกระตุ้นให้ความรู้ต่อยอดรวมทั้งบริหารวัฒนธรรมองค์กรหมายถึง“Triple I” ซึ่งประกอบไปด้วย
1) Individual Talents (เอไอเอสสนับสนุนคนเก่งแล้วก็คนดี), 2) Idea Generations (เอไอเอสเป็นหน่วยงานแห่งการผลิตสรรค์แล้วก็ของใหม่) และ 3) Infinite
Changes(เอไอเอสพร้อมรับรวมถึงสร้างการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด) อย่างมีทิศทางที่แจ้งชัดรวมทั้งและก็ตลอดนั้นสามารถนำ พาให้หน่วยงานมุ่งสู่แผนการที่ตั้งไว้ได้แบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นในเชิงของบุคลากรและก็ธุรกิจภาพรวม โน่นเป็น การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลไลฟ์
“Digital LifeServiceProvider”วัฒนธรรมหน่วยงาน(CorporateCulture)ของเอไอเอสได้ดีไซน์ออกมาให้สอดคล้องกับวิถีของธุรกิจแล้วก็พฤติกรรมที่มุ่งหมายอย่างตรงจุดและก็ละม้ายต่อการทำ งานที่ยืนนานที่สุด
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสร้างกรอบแนวความคิดของการจัดการงานทรัพยากรบุคคลรวมทั้งช่วยทำให้การวางเป้าหมายทุกส่วนข้างในหน่วยงานไปในหนทางเดียวกัน เช่นเดียวกันกับการ เพิ่มความกระจ่างและจากนั้นก็การ ตอกย้ำถึงวัฒนธรรมของชาวเอไอเอส
“FIND-U” (CorporateCultureTheme) ที่ปรับใช้มาจากค่าความนิยม“FASTMOVING”10ตัว(CoreValues)เข้าไปอยู่ใน DNA ของบุคลากรทุกคนผ่านวิธีการเชิงรุกต่างๆดังเช่นว่า การบรรจุเข้าไปเป็นส่วนสำ คัญในระบบการค้นหาเจ้าหน้าที่(Recruitmentprocess)โดยเริ่มจากการปลูกฝังวัฒนธรรมนี้ให้กับพนักงานเอไอเอสตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาสู่ครอบครัวที่นี้สำหรับในการปฐมนิเทศบุคลากรใหม่ (Onboarding Programme) ด้วยวิธีการทำ Workshopรวมทั้งสื่อการสอนต่างๆโดยมีเป้าหมายเพื่อสื่อความหมายรวมทั้งการกระทำของวัฒนธรรมเอไอเอสพร้อมกับเน้นย้ำ ว่าถึงแม้เรามีวัฒนธรรมที่หนักแน่นร่วมกัน เราก็จะสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างเต็มที่ สอดคล้องกับวิธีทำ งานร่วมกับคนอื่นทั้งยังในและนอกหน่วยงานที่ตนทำ งานอยู่มีการประสานกันในเชิงบวก เจ้าหน้าที่มีความรู้และความเข้าใจซึ่งกันและกันเอามาสู่ความข้องเกี่ยวรวมทั้งความสบายข้างในหน่วยงานในที่สุด จะมีผลทำ ให้องค์กรประสบผลสำเร็จจากที่ตั้งใจไว้ได้ รวมถึงการพัฒนาและก็ปลูกฝังให้กับ เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ผ่านวิถีทางการเล่าเรียนในต้นแบบต่างๆ
เครดิต : https://www.ais2pro.com/โปรais/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น